สิ่งสำคัญที่ต้องรู้ จากสถานการณ์วิกฤตที่เกิดขึ้น
บทเรียนของธุรกิจจากสถานการณ์ไวรัส 2019-2020
ผู้ประกอบการ คนทำงานต่างต้องเผชิญ ‘สถานการณ์พิเศษ’ กันโดยถ้วนหน้า จะกระทบมากหรือน้อย หรือต้องถึงขั้นล้มหายตายจากธุรกิจ ขึ้นอยู่กับภูมิคุ้มกัน ความแข็งแกร่ง และประเภทของธุรกิจที่ได้รับผลกระทบมากน้อยต่างกันไป เหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นโดยไม่มีใครคาดคิดและแทบจะคาดเดาสถานการณ์อะไรล่วงหน้าไม่ได้เลย เราลองมาสรุปกันดูง่ายๆ ว่าเราได้เรียนรู้อะไรบ้างจากภาวะผิดปกติครั้งนี้
1. ความยืดหยุ่นของธุรกิจ
หมายถึงทั้งในส่วนของตัวองค์กร บริษัทและในส่วนของประเภทธุรกิจที่เราอยู่ ความยืดหยุ่น คือ ความสามารถในการปรับตัว การเปลี่ยนแปลง ที่พร้อมปรับเปลี่ยนรูปแบบ ภายใต้ข้อจำกัดหรือข้อกำหนดใหม่ๆที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทั้งความสามารถประสิทธิภาพของบุคคลากร วิสัยทัศน์ การตัดสินใจของผู้บริหาร และการเปิดรับการปรับเปลี่ยนเพื่อตอบสนองต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ข้อนี้ถือว่าเป็นจุดอ่อนที่สำคัญของผู้ประกอบการส่วนใหญ่ที่เชื่อมั่นใน comfort zone ของตัวเอง ความสำเร็จที่พิสูจน์มาแล้วยาวนานจะไม่ใช่ หลักประกันว่าจะสามารถนำพาธุรกิจผ่านวิกฤติที่ผ่านเข้ามา เพราะปัจจัย องค์ประกอบและเงื่อนไขของธุรกิจได้เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง สิ่งเดียวที่เป็นคุณสมบัติสำคัญที่สามารถใช้ได้จากประสบการณ์ความสำเร็จที่ผ่านมา คือ ภาวะในการตัดสินใจ ต้องมีความกล้าและมีความชัดเจน ยอมละทิ้ง
รูปแบบ วิธีการเก่าๆ ผู้บริหารคือกุญแจสำคัญที่จะชี้เป็นชี้ตายให้กับธุรกิจ
2. ปัจจัยและองค์ประกอบในการดำเนินการ ในภาวะสถานการณ์ใหม่ๆ
จากองค์ประกอบของธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นบุคคลากร เครื่องมือเครื่องจักร รวมถึงเครือข่ายพันธมิตรในธุรกิจ คือ ปัจจัยพื้นฐาน ทรัพยากรสำคัญในธุรกิจ และยังรวมถึงรูปแบบวิธีการในการบริหารจัดการ การดำเนินงานต่างๆ สิ่งต่างๆ เหล่านี้คือต้นทุน ที่จะเป็นคำตอบว่าเราจะสามารถปรับตัวเข้ากับวิกฤติที่เกิดขึ้นได้หรือไม่ เราจะเห็นได้ว่า ธุรกิจได้เปลี่ยนแปลงรูปแบบและวิธีการ ช่องทางการขาย ช่องทางการติดต่อ เข้าถึงและสื่อสารกับผู้ซื้อเปลี่ยนรูปแบบใหม่ ยังไม่รวมถึงพฤติกรรม การรับรู้ และรูปแบบการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนสู่เวอร์ชั่นใหม่ ที่สำคัญ เราไม่สามารถนำองค์ความรู้ ประสบการณ์ที่เคยสะสมกันมา นำมาใช้ได้อย่างจริงจัง ผู้บริหารต้องเลือกที่จะออกจาก comfort zone และใช้วิสัยทัศน์ ภาวะการตัดสินใจเลือกที่แม่นยำ เพื่อนำธุรกิจ ก้าวไปสู่ตำแหน่งและรูปแบบทางธุรกิจใหม่ๆ
3. โลกของการเปลี่ยนแปลง ความสามารถในการปรับเปลี่ยน
ในโลกยุคข้อมูล และชีวิตแบบดิจิตอล อิทธิพลของการสื่อสารระหว่างบุคคลและระหว่างเครือข่าย มีพลังมหาศาล สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงได้อย่างถอนรากถอนโคน รูปแบบการดำเนินธุรกิจเก่าจะถูกกำจัด disrupt อย่างง่ายดายและรวดเร็วอย่างคาดไม่ถึง สิ่งที่จะเป็นหลักประกันก่อนการก้าวผ่านสู่การเปลี่ยนแปลงในยุคใหม่ คือความสามารถในการปรับเปลี่ยน อย่ายึดมั่นถือมั่นในสิ่งที่เคยเชื่อ เคยเป็น จงยอมรับกับความเปลี่ยนแปลง อะไรที่จะต้องคงอยู่ และอะไรบ้างที่ต้องกำจัดหรือปรับเปลี่ยน ธุรกิจต้องพร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงและเรียนรู้ เพื่อหาจุดสมดุลในธุรกิจให้เกิดขึ้นให้ได้
เปิดโอกาสให้ไอเดียใหม่ๆ พึงระลึกไว้เสมอว่า จะไม่มีอะไรที่สามารถยั่งยืนได้ถาวร แต่แค่ว่ามันจะคงอยู่และคล้อยตามการเปลี่ยนแปลงได้ทันและเป็นระยะเวลานานเท่าไหร่
4. สิ่งใหม่ๆที่เกิดขึ้นคืออุปสรรค แต่ก็คือโอกาสที่สำคัญ
ไม่ว่าที่ผ่านมาเราจะมีความมั่นคงและแข็งแกร่งขนาดไหน อาจจะใช่หรือไม่ใช่สำหรับความสำเร็จในอนาคต แต่เกือบทุกธุรกิจ ทุกอุตสาหกรรม ได้มีการเปลี่ยนสู่ยุคใหม่ และที่แน่ๆ จะไม่กลับไปสู่ความรุ่งเรืองเหมือนในยุคเดิมๆที่เคยเป็น เพราะฉะนั้น เราต้องมองถึงโอกาส รูปแบบและวิธีการใหม่ๆ ต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบการบริหารจัดการ การดำเนินการที่ใช้ทฤษฎีใหม่ๆ แนวคิดใหม่ๆ องค์ประกอบและปัจจัยในการทำธุรกิจจะไม่ใช่รูปแบบเดิมๆ
การเปลี่ยนแนวคิด ต้องเริ่มตั้งแต่จุดเริ่ม บรรทัดแรกของการทำงาน ตลอดจนถึงภาพรวม สภาพการแข่งขันและการอยู่รอดในธุรกิจ และที่สำคัญต้องมีวิสัยทัศน์ที่กว่้างและไกลมาก ธุรกิจอาจไม่ได้เกิดขึ้นตรงหน้าในฉับพลัน แต่อาจอยู่ระหว่างในเส้นทางของการดำเนินการ หรือแม้แต่ที่ปลายทางของเส้นทางก็ได้ แต่เราจะต้องรู้ว่าเราจะต้องทำอะไร เพื่ออะไร เพื่อให้สู่เป้าหมายที่กำหนดไว้
โดยรวมแล้ว วิกฤติการณ์ครั้งนี้คือบทเรียนครั้งสำคัญและโอกาสที่จะทำให้เราสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลง เพื่อพร้อมสู่โลกธุรกิจยุคใหม่ และเป็นช่วงเวลาสำคัญที่เราจะสร้างโลกใหม่ ปรับเปลี่ยนสู่ความสำเร็จในอนาคต
...โลกในอนาคตไม่ใช่โลกของปลาใหญ่ แต่คือโลกของปลาที่เร็วกว่าเท่านั้น
Comments